![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiGfEPYJGg3AzSda2iyNUu9TYoN24evD0Tg1dj9a87m6mbptqCp5zn19HNtEBiIa6MhhtKQ75K5aPADoMByPLRGYp3M2FH0PBaCQjYpemRJOHQaNLEAQ0zWywZaAc5FePbzYyLZQGxpW_JH/s320/851960490_21e782980e_o.jpg)
ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้ผ่องใส
สองอย่างแรกนี่อาจทำได้ไม่ยาก
แต่ทำจิตใจให้ผ่องใสนี่สิครับ จะทำอย่างไร
เพราะบางทีความคิดและความรู้สึกร้ายๆต่างๆของเราก็ผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและบังคับไม่ได้
จิตที่ผ่องใส คือจิตที่ไม่ยืดมั่นถือมั่นทั้งสุขและทุกข์ครับ
เพราะตราบใดที่ยังยึดในสุขอยู่ก็ต้องมีทุกข์ตามมาเป็นเรื่องธรรมชาติ
การจะไม่ยึดมั่นในสิ่งทั้งปวงได้ ก็อย่างที่กระทู้นึงเพื่อนๆบอกไว้ว่า
ต้องมี"ศีล สมาธิ ปัญญา"
การจะไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงได้ก็ต้องใช้ปัญญาเข้าไปพิจารณาถอดถอน ทุกสิ่งทุกอย่าง
คือพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างลงสู่ความเป็นไตรลักษณ์ครับ(ว่าเป็นทุกข์ ไม่เที่ยงและไม่สามารถคงอยู่ได้)
จิต กับ ความทุกข์ ความสุข เป็นคนละตัวกัน
ตราบใดที่พิจารณาจนเห็นความเป็นจริงทุกอย่าง
จะทราบได้ว่า แม้ในเวลาที่เกิดความทุกข์
จิตก็ผ่องแผ้วได้เช่นกัน เนื่องจากจิตและความทุกข์ความสุขนั้น ไม่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันแล้ว
ขอบคุณบทความจาก ธรรมจักร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น